คุณคิดว่าลายสักที่ดูเหมือนจะคงทนถาวร สักแล้วจะอยู่ติดตัวเราไปตลอดเวลาจริงๆ ไหม?
คำตอบก็คือ ไม่ได้ติดตัวแบบเป็นรูปร่างเดิมสีเดิมเป๊ะๆ ตลอดไป รอยสักที่ดูเหมือนจะแน่นอน ก็ยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกันกับสรรพสิ่งที่หยุดนิ่ง ที่จริงแล้วเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ถึงแม้เราไม่เห็น ใช่ว่ามันจะไม่เปลี่ยน
ใช่แล้วล่ะ มันซีดจางลงได้ตามกาลเวลา !
ยิ่งนานก็ยิ่งจางลง หากไม่มีการมาเติมสีเลยจะอยู่ได้นาน 10 ปี ซึ่งอาจเป็น 10 ปีที่ทำให้เราอยากเปลี่ยนไปสักลายใหม่ หรืออยากจะไปเติมสีให้ลายเดิมแล้วต่อเติมลายเพิ่ม หรืออาจจะมีแก้นิดหน่อยก็ได้ ใครจะไปรู้ ?
เนื่องจากการสักเป็นเรื่องของการฝังสีลงไปในผิวหนัง ไม่ใช่แค่การทาสีที่ชั้นผิวหนังด้านนอกสุด ช่างสักที่เป็นมืออาชีพ จะรู้เทคนิคในการฝังเข็มสักให้ลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ เพื่อให้สีติดทนนานและผ่านพ้นช่วงการผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าในช่วงแรกๆ ได้
เมื่อพ้นช่วงที่ผลัดผิวไปแล้ว เม็ดสีสักยังคงอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เซลล์ผิวหนังใหม่ก็จะกินเซลล์ผิวหนังเก่าที่ด้านในมีเม็ดสีเป็นอาหารเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เม็ดสีที่เราเห็นด้านนอกจางลงทุกปีๆ
และนอกจากนี้ ยังมีในเรื่องปัจจัยของรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตในแสงแดด และเซลล์ภูมิคุ้มกันอย่างเซลล์มาโครฟาจ ที่เข้ามากำจัดสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ผิดที่ผิดทางอีกด้วยที่ทำให้รอยสักมีโอกาสที่จะจางลงได้เรื่อยๆ
กระบวนการเหล่านี้ ใช้เวลานาน แต่สุดท้ายแล้วถ้าปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลลายสัก หรือไม่ขยันไปเติมสีสักเป็นเนืองๆ รอยสักที่เคยสักไว้ก็จะจางหายไปในที่สุด
ซึ่งเราอยากปล่อยให้จางไป หรือไปเติมสี ก็คงแล้วแต่เจ้าของลายสักแล้วล่ะ ว่าอยากได้รูปเดิมหรือเปลี่ยน ? เพราะคนเราอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงความต้องการภายใน 1-2 ปีได้แบบไม่น่าเชื่อ แล้วลายสักที่เราอยากเห็น อยากจำ หรืออยากให้คนอื่นเห็นความเป็นตัวเรา จะมีสิทธิเปลี่ยนไม่ได้เชียวหรือ ?
แต่ไม่ว่าจะพอใจกับมันไหม โปรดรู้ไว้ ว่า ลายสักแก้ได้ ยิ่งสีซีดจางลงมากเท่าใด การแก้จะง่ายขึ้นมาก (หรือต่อให้สียังไม่จางมาก ก็แก้ได้)
เพราะเราสามารถที่จะเลือกต่อเติมลายเดิม เพิ่มเข้าไปให้มีเรื่องราว บอกเล่าอะไรได้มากกว่าลายเดิมที่มีได้อีก
หรือแม้กระทั่งแก้ลายเก่าที่อยากเปลี่ยน ให้กลายเป็นลายใหม่แบบเนียนๆ ก็ได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะอยากสักเอง หรือหาที่เรียน บอกเลยว่าต้องอาศัยการเลือกช่างหรือครูที่เชี่ยวชาญเรื่องศิลปะและการออกแบบพอสมควร เพราะการออกแบบต่อเติมลายเก่า หรือแม้กระทั่งการแก้ลายใหม่ๆ เป็นเรื่องที่ต้องใช้หลักการทางศิลปะในการช่วยจัดวางองค์ประกอบให้ออกมาดูดี เพราะสุดท้ายเมื่อสักทับไปแล้ว หมึกสักก็จะอยู่กับเราไปอีกหลายปีเลยทีเดียว 😀