
อย่างที่รู้ๆ กัน ว่าการสัก เป็นการที่ทำให้ร่างกายเกิดแผล เพื่อให้หมึกสัก สามารถเข้าไปในร่างกายได้ ไม่ว่าจะเพื่อความสวยงามหรืออะไรก็ตามแต่ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีความเสี่ยง หากจะสักแล้วจบคงไม่เป็นไร แต่สำหรับคนที่มีกิจกรรมการไปบริจาคเลือดอยู่เป็นกิจวัตรอาจต้องคิดให้ดี
แอดมินเลยไปหาคำตอบมาให้ ว่าสรุปแล้วสักสามารถบริจาคเลือดได้หรือไม่ ? ไปเจอคลิปตัวหนึ่งของสำนักข่าวไทย MCOT ช่วงชัวร์ก่อนแชร์ ที่ได้ไปสัมภาษณ์ น.ท. หญิง พญ. อุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ (ผอ. ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย) ซึ่งได้ให้คำตอบแบบกระจ่างและเข้าใจมากๆ เอาไว้ว่า
การสัก การฝังเข็ม โดย “แพทย์” ก็จะงดบริจาคแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ส่วนการสัก การฝังเข็ม ที่ “ไม่ได้ทำโดยแพทย์” ก็จะงดบริจาคโลหิต 1 ปี
เหตุผลที่ทางสภากาชาดให้ไว้ก็คือ อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดก็จะมีการติดเชื้อได้ เชื้อที่จะติดมาจะเป็นไวรัสตับอักเสบชนิดบี ชนิดซี เผลอๆ ก็อาจจะติด HIV มาด้วย และที่ต้องรอถึง 1 ปี ก็เพราะว่าถ้าติดเชื้อจริงจะมีโอกาสตรวจเจอ แต่ถ้าสักมาใหม่ๆ แล้วบริจาค เชื้อในเลือดอาจจะน้อยจนตรวจไม่เจอ แต่มีสิทธิติดไปยังผู้ป่วยที่รับเลือดได้ อันนี้ก็จะเกิดอันตราย
ถึงแม้ว่าร้านสักจะทำสะอาดอย่างดีแค่ไหนก็ตามเถอะ แต่ในทางปฏิบัติของศูนย์บริจาคโลหิต ก็ต้องเอาความปลอดภัยเรื่องพวกนี้ไว้ก่อนแล้วน่ะนะ เพราะคนที่รับไปไม่ควรต้องเสี่ยงกับเรื่องทำนองนี้ ก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้กันหน่อยนึงเนอะ ^_^
แต่ก็มีข้อยกเว้นกับคนที่สักแบบไม่ถาวรนะ สักแบบเข็มไม่ลึกมากอะไรแบบนี้ อย่างเช่นคนที่ไปสักคิ้วแบบเพ้นท์ ที่ไม่ใช่สักถาวร ก็อนุญาตให้บริจาคได้
ใครอยากสักลาย แต่อยากบริจาคเลือดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ อาจต้องลองเลือกให้ดี ตัดสินใจให้ดีๆ ว่า พร้อมหรือยัง กับการงดบริจาคไปเลย 1 ปีด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยของผู้รับเลือด และเพื่อความสบายใจของเราเองด้วยจ้า