ครูแซค สยามชัย #ช่างแซคสยามชัย
ครูสอนสัก
“งานสักจริงๆ แล้วของผมเริ่มจากพ่อครับ พ่อเป็นอาจารย์สักยันต์มาก่อน เกิดมาโตมาก็เห็นผลงานท่านแล้ว เห็นท่านสักแล้ว ในตัวท่านก็มีลายสักแล้ว แต่ตัวผมเองก็ชื่นชอบการวาดภาพ การทำงานศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เหมือนกัน ตอนนั้นเรื่องงานสักตอนนั้นยังเด็กอยู่ ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจอะไร ยังมองว่ามันสกปรกอยู่ ก็ยังไม่ได้ชื่นชอบ”
“วันเวลาล่วงเลยไป ก็ใช้ชีวิตวัยรุ่นไปตามปกติ หนุ่มโรงงานทำงานเงินเดือนหมื่นต้นๆ บ้าง ใช้เดือนชนเดือนไป จนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้นั่งดื่มกับเพื่อนๆ มีเพื่อนคนหนึ่งก็สะกิดมาว่า ทำไมไม่ไปฝึกสักล่ะ เพราะว่าเขาได้ไปเจอเพื่อนที่ได้ไปสักแบมบู (แทงมือ) มา ก็เห็นเพื่อนเขาสักแบบ สักสวยบ้างไม่สวยบ้าง ก็เลยมาทักผม ว่าทำไมไม่ไปฝึกสักบ้าง เอ้อ วาดรูปก็สวย จุดประกายของผมก็คือ เพื่อนคนนี้พูดขึ้นมาว่า “ทำไมไม่ไปฝึกสัก รายได้ดีนะ” คำนี้เลยครับ เป็นคำที่กระตุ้นความคิดขึ้นมาเลยครับ ว่าเออ… รายได้ดี เราก็เลยฉุกคิดอยู่พักใหญ่ ฉุกคิดเลย แต่ก็นึกไปพลางๆ ว่า กลัวทำให้เขาไม่สวย กลัววาดลงไปในผิวหนัง แล้วกลายเป็นว่าวาดแบบหนึ่งสักอีกแบบหนึ่ง ก็เลยล้มเลิกความคิดนั้นไป”
แล้วก็มีผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง รับเข้ามาทำงานด้วย ในเรื่องของสายงานสักโดยตรงเลย ก็ได้ฝึกสักในร้านด้วย ช่วงนั้นก็เป็นผู้ช่วย ช่วงนั้นก็ฝึกๆ ไป เบื้องต้นก็เป็นคนหัวช้า เรียนรู้ช้า แต่ก็ถามจู้จี้ ถามจนเข้าใจ เพราะว่าผมหัวช้ามากๆ พอได้สักคนจริงครั้งแรกก็ตื่นเต้น กังวล คำถามเกิดมากมายเลย แต่ก็คิดว่าต้องผ่านไปให้ได้ เพราะทุกคนต้องเจอปัญหานี้
“แล้วก็อยู่มาวันหนึ่งก็ได้เริ่มรับลูกค้าครั้งแรก ได้เงิน 1,000 บาท ดีใจมาก แล้วก็ฉุกคิดว่า ถ้าเกิดว่าเราตั้งใจทำงานสักให้มากกว่านี้ ให้ดีกว่านี้ เราก็จะได้เงินที่เยอะกว่านี้ เราก็จะมีรายได้ดี ทำงานในห้องแอร์ ค่อนข้างสบาย ตอนนั้นคิดแบบนี้ ก็ได้ฝึกสักมาเรื่อยๆ ฝึกมาทั้งงานสี งานแสงเงา งานญี่ปุ่น งานนิวสคูล เราก็ฝึกมาหมดเลย เพราะเราคิดแค่ว่า กลุ่มลูกค้าของเรามีค่อนข้างหลากหลาย เราต้องใช้โอกาสในการฝึกงานพวกนี้ เพื่อที่จะดึงลูกค้ามาในหลายๆ ด้าน หลายๆ มุม”
“พอกินเวลานานเข้าก็จะมีความรู้สึกว่า อยากทำงานที่โดดเด่น อยากทำ 1 ชิ้นแล้วว้าว เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ผมก็ได้ไปเจอภาพนาจาภาพหนึ่ง แล้วก็แบคกราวน์จะเป็นรูปภาพลายเส้นของ Mandala แต่จะมีเทคนิคในเรื่องรอยแตกของปูน ดิน ดินเก่าๆ เป็นเหมือนลายแทง ศิลา อะไรทำนองนั้น ด้วยผลงานชิ้นนี้ก็ทำให้คนรู้จักช่างแซคมากขึ้น ด้วยทั้งเทคนิคเอย ด้วยทั้งรูปภาพที่แปลกตาและฉีกแนวออกไป”
“จริงๆ งานชิ้นนี้ผมก็ทำมาเพื่อท้าทายตัวเองเป็นอันดับแรก อยากทำงานที่แปลก แล้วจะทำได้กี่เปอร์เซ็นด์ แต่ความพึงพอใจของผมในตอนนั้นก็มีอยู่ค่อนข้างมากเลย ถึง 90% เลย มีความพึงพอใจในงานค่อนข้างสูงเลย แต่ด้วยประสบการณ์ที่มันมากขึ้นๆ มันก็ตามกาลเวลา”